สัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน
ความหมายของผังงาน
ผังงาน (Flowchart) คือแผนภาพซึ่งแสดงลำดับขั้นตอนของการทำงาน โดยแต่ละขั้นตอนจะถูกแสดงโดยใช้สัญลักษณ์ซึ่งมีความหมายบ่งบอกว่าขั้นตอนนั้น ๆ มีลักษณะการทำงานแบบใด และแต่ละขั้นตอนจะถูกเชื่อมโยงกันด้วยลูกศรเพื่อแสดงลำดับการทำงาน ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจว่าในการทำงานนั้น ๆ มีขั้นตอนอะไรบ้าง และมีลำดับอย่างไร
ประโยชน์ของผังงาน
1. ช่วยให้สามารถทำความเข้าใจลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมหรือระบบใด ๆ
ได้อย่างรวดเร็ว
2. ช่วยแสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน ทำให้สามารถเขียนโปรแกรมได้อย่างเป็นระบบ
ไม่สับสน นอกจากนี้ผังงานยังเป็นอิสระต่อภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแแกรม
กล่าวคือ จากผังงานเดียวกันสามารถนำไปเขียนโปรแกรมด้วยภาษาใดก็ได้
ประเภทของผังงาน
1.
ผังงานระบบ (System flowchart) เป็นผังงานซึ่งแสดงขอบเขต และลำดับขั้นตอนการทำงานของ ระบบหนึ่ง ๆ รวมทั้งแสดงรูปแบบของข้อมูลนำเข้า (input) และข้อมูลออก (output) ว่าถูกรับเข้าหรือแสดงผลโดยผ่านสื่อประเภทใด เนื่องจากผังงานระบบเป็นแผนภาพที่แสดงถึงระบบโดยรวม ดังนั้นกระบวนการหรือ โปรแกรมหนึ่ง ๆ อาจถูกแสดงเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในผังงานระบบเท่านั้น
2.
ผังงานโปรแกรม (Program flowchart) เป็นผังงานซึ่งแสดงลำดับขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมหนึ่ง
สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงาน
การเขียนผังงาน เป็นการเขียนแผนภาพเพื่อแสดงขั้นตอนการทำงาน โดยนำภาพสัญลักษณ์ต่าง ๆ มาเรียงต่อกัน สัญลักษณ์ที่นิยมใช้ในการเขียนผังงานนั้น หน่วยงานที่ชื่อว่า American National Standards Institute (ANSI) และ International Standard Organization (ISO) ได้ร่วมกันกำหนดสัญลักษณ์มาตรฐานเพื่อใช้ในการเขียนผังงานดังแสดงในตาราง
โครงสร้างของภาษาซี
ภาษาซีเป็นภาษาที่มีโครงสร้างในการเขียนโปรแกรมที่ชัดเจน ซึ่งมีรูปแบบของโครงสร้างโปรแกรม ดังนี้
รูปแสดงโครงสร้างของภาษาซี
1. ส่วนของการประกาศส่วนหัวของโปรแกรม
หรือที่เรียกว่า เฮดเดอร์ไฟล์ (Header File) เป็นการเรียกใช้เฮดเดอร์ไฟล์เข้ามาร่วมใช้งานภายในโปรแกรม โดยไฟล์เฮดเดอร์เป็นไฟล์ที่ใช้ในการรวบรวมฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ ที่สามารถเรียกใช้ได้ เช่น ภายในเฮดเดอร์ไฟล์
stdio.h เป็นไฟล์เฮดเดอร์ที่รวบรวมเกี่ยวกับฟังก์ชั่นมาตรฐานทางด้านการรับข้อมูล (Input) และแสดงผลข้อมูล (Output) ยกตัวอย่างเช่น ฟังก์ชั่น
printf( ); เป็นฟังก์ชั่นในการแสดงผลข้อมูล ซึ่งบรรจุอยู่ในไฟล์
stdio.h เป็นต้น
2. ส่วนของชื่อฟังก์ชั่น
ในที่นี้ ฟังก์ชั่นที่กำหนดขึ้นมาชื่อฟังก์ชั่น
main() โดยทุกโปรแกรมจะต้องมี
ฟังก์ชั่น
main() ทำหน้าที่เป็นฟังก์ชั่นหลักในการทำงานในการประมวลผลโปรแกรมทุกครั้ง โปรแกรมจะทำการประมวลผลที่ฟังก์ชั่น
main() เป็นฟังก์ชั่นแรก ซึ่งในการเขียนโปรแกรมภาษาซีทุกครั้ง
จะขาดฟังก์ชั่น
main() ไม่ได้
3. ส่วนตัวโปรแกรม
ส่วนนี้เป็นส่วนในการเขียนคำสั่งต่าง ๆ เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ในการเขียน
คำสั่งจะเขียนภายในเครื่องหมายปีกกาเปิด { และเครื่องหมายปีกกาปิด } โดยปกติส่วนของการเขียนโปรแกรมจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ
1) ส่วนของการประกาศตัวแปร คือ ส่วนที่ใช้ในการกำหนดตัวแปรที่จะใช้งานในการเขียนโปรแกรม
2) ส่วนของคำสั่ง หรือ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ คือ ส่วนที่ใช้สำหรับในการพิมพ์คำสั่งและ
ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ซึ่งหลังจากพิมพ์ฟังก์ชั่นเสร็จแล้วจะต้องปิดท้ายด้วยเครื่องหมายเซมิโคลอน ; เสมอ
4. ส่วนของการเปิดโปรแกรมและปิดโปรแกรม
ตามโครงสร้างของภาษาซี จะต้องมีการกำหนดจุดเริ่มต้นและจบโปรแกรม โดยในที่นี้ใช้เครื่องหมายปีกกาเปิด { ในการระบุตำแหน่งการเริ่มต้นโปรแกรม และ ใช้เครื่องหมายปีกกาปิด }
ในการระบุตำแหน่งการจบโปรแกรม
5. การกำหนดตำแหน่ง หมายเหตุ (Comment)
ในการเขียนโปรแกรม ผู้เขียนสามารถเขียนส่วนคำอธิบาย หรือ หมายเหตุของโปรแกรมได้ ซึ่งส่วนของคำอธิบายหรือหมายเหตุดังกล่าว จะไม่ถูกแปลความหมายโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งวิธีในการเขียนคำอธิบาย หรือหมายเหตุ มี 2 แบบ คือ
1) การกำหนดหมายเหตุ 1 บรรทัด
ในการกำหนดหมายเหตุ 1 บรรทัด จะใช้เครื่องหมาย // ด้านหน้าข้อความที่ต้องการกำหนดหมายเหตุ เช่น
จากตัวอย่างข้างต้น คำสั่ง printf จะถูกแปลความหมายตามปกติ แต่ข้อความ Show data จะไม่ถูกแปลความหมาย เพราะเป็นส่วนของหมายเหตุ
2) การกำหนดหมายเหตุหลายบรรทัด
ในการกำหนดหมายเหตุหลายบรรทัด จะใช้เครื่องหมาย /* ไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดเริ่มต้น และ */ ไว้ที่ตำแหน่งบรรทัดสุดท้าย หมายเหตุ เช่น
จากตัวอย่างข้างต้น บรรทัดที่เริ่มต้นด้วย /* จะเป็นส่วนเริ่มต้นหมายเหตุ และคอมพิวเตอร์จะไม่แปลความหมายจนถึงบรรทัดที่ปิดท้ายด้วย */ หลังจากบรรทัดดังกล่าว คอมพิวเตอร์ถึงจะทำการแปลความหมาย